06.00 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ T สายการบิน EMIRATES (เอมิเรตส์) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอํานวยความสะดวกด้านสัมภาระและบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
09.55 น. ออกเดินทางสู่กรุงโรม โดยสายการบิน EMIRATES (เอมิเรตส์) เที่ยวบินที่ EK375 ( 09.55 น. – 13.00 น.) / EK095 (15.45 น. – 20.05 น. ) แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ | บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
20.05 น.เดินทางถึง สนามบินลีโอนาร์โด ดาร์วินชี่ (ฟูมิซิโน) นําท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรเรียบร้อย แล้วนําท่านสู่โรงแรมที่พัก
พักค้างคืน ณ IH Hotel Roma Z3 (ระดับ 4ดาว) หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 1)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 1)
นําท่านเดินทาง โดยรถโค้ชสู่ กรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลี ซึ่งมีอดีตอันยิ่งใหญ่ และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันเรื่อง อํานาจเมื่อราวกว่า 2,000 ปีที่ผ่านมา จากนั้นนําท่านเดินทางเข้าสู่ นครรัฐวาติกัน รัฐอิสระที่ปกครองตนเองเป็น ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นําท่านเข้าชมภายใน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่า ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก “เพียต้า” ผลงานของศิลปินเอก ไมเคิลแอง เจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย เบอร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลี ชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โรมันฟอรั่ม
จากนั้นคณะแวะถ่ายรูปที่ระลึกด้านหน้า สนามกีฬาโคลอสเซียม โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน การออกแบบอย่างชาญฉลาดสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในปัจจุบัน จากนั้นให้ ท่านถ่ายภาพคู่ กับประตูชัยคอนสแตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม” รถโค้ชนําท่านวิ่งผ่าน ชมสถานที่ต่างๆรอบกรุงโรม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2) (อาหารจีน)
จากนั้นนาท่านชม น้ําพุเทรวี่ เป็นน้ําพุที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ชื่อ “เทรวี่” นั้นมาจากคําว่า“ตรีวิอุม" หมายถึงพบกันของถนนสามสาย เป็นอนุสรณ์สไตล์บารอค ออกแบบและก่อสร้างโดย นิโคลา ซาลวี่ ซึ่งองค์สมเด็จ สันตะปาปา ครีเมนต์ที่ 12 ได้มอบหมายให้สร้างขึ้นในปี 1732 การก่อสร้างดําเนินเรื่อยมาจนกระทั่งภายหลังการ สิ้นพระชนม์สมเด็จสันตะปาปาที่ เออร์บัน ที่ 8 ได้หยุดชะงักลง และดําเนินการสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จในปี 1762 รวม ใช้เวลาทั้งสิ้น 30 ปี มีทางระบายน้ําเวอร์โก้ บริเวณลานด้านหน้านั้นก่อสร้างมากว่า 2,000 ปี ครั้งสมัยโรม โบราณซึ่งปกครองโดยจักรพรรดิออกัสตัส ซึ่งตรงเวลา 19 ปี ก่อนคริสต์ศักราช รูปปั้นแกะสลักที่เลิศหรูอลังการที่ อวดโฉมให้ผู้ไปเยือนได้ยลนั้น ได้แนวคิดจากความยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าเนปจูน “เทพแห่งท้องทะเล” ว่ากันว่า หาก ใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ํา เขาหรือเธอผู้นั้นจะได้กลับมาเยือนอีกในสักวัน จากนั้นให้คณะได้ถ่ายรูปภาพคู่ บันไดสเปน เป็นบันไดในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ชื่อ Francesco de Sanctis เชื่อมระหว่าง Piazza di Spagna และ Piazza Trinità dei Monti เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีป ยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ใช้สําหรับเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ที่ย่านบันไดสเปน นับว่าเป็นแหล่ง พักผ่อนของชาวอิตาลีและนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ
นําท่านชม วิหารแพนเธออน เป็นสถาปัตยกรรมสําคัญ สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิมาร์คุส วิบซานิอุส อะกริบปา จุดมุ่งหมายในการสร้างไม่ชัดเจนต่อมามีการสร้างใหม่ในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียน ใน ค.ศ. 126 และซ่อมใหญ่ในปี ค.ศ. 202 โดยจักรพรรดิ เซพติมิอุส เซเวรุส และคาราคาลา การก่อสร้างในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียนมีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นเทวสถานของเทพเจ้าโรมัน 7 องค์หรือเทพแห่งดาวในระบบสุริยะ APOLLO พระอาทิตย์ DIANA พระจันทร์ MARS อังคาร MERCURY พุธ JUPITER พฤหัส VENUS ศุกร์ SATURN เสาร์ ลักษณะเด่นของตัว วิหารคือมีหลังคาทรงกลมและโค้งเป็นครึ่งวงกลมวางอยู่บนเสาหินแกรนิตขนาดมหึมา วิหารมีความสูงถึง 43.3 เมตร รายละเอียดของโดมหลังคาภายในวิหาร รวมถึงโครงสร้างที่แข็งแรงและยืนหยัดมานานกว่าสองพันปี ตั้งแต่ คริสต์ศตวรรษที่ 7 เป็นต้นมา วิหารแห่งนี้ถูกใช้เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก อุทิศแด่พระแม่มารีและผู้พลีชีพเพื่อ ศาสนา
ออกเดินทางสู่ แคว้นทอสคาน่า เมืองปิซ่า ท่านจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามของบ้านเรือนแบบอิตาลีและ ปราสาทตั้งสูงสง่างามอยู่บนเนินเขา และเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นดีของเมืองนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 3) (อาหารพื้นเมือง สปาเก็ตตี้ต้นตําหรับอิตาลี + อาหารจานหลัก (เมนคอร์ส) + ของหวาน)
พักค้างคืน ณ GALILEI HOTEL หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 4)
นําท่านชม หอเอนเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่เมืองปิซ่า ประเทศอิตาลี เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น 1 สร้างด้วยหินอ่อนสูง 181 ฟุต เริ่มสร้างเมื่อ ค.ศ. 1174 แต่การก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงเมื่อก่อสร้างไปได้ประมาณ 4- 5 ชั้น เนื่องจากพื้นดินใต้อาคารเริ่มยุบลง จากการที่รากฐานของอาคารไม่มั่นคงพอ อย่างไรก็ตามต่อมาได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อปีค.ศ.1350 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วนของโครงสร้างด้านบนไปจาก แผนผังเดิมเพื่อถ่วงดุลกับการเอียงของหอ โดยรวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 176 ปี แต่ตัวหอก็ยังเอนไปจาก แนวตั้งฉากถึง14 ฟุต ปัจจุบันนี้ได้ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมด้านบนแล้ว เนื่องจากว่าหอจะเอนลงเรื่อยๆ ซึ่งบรรดาวิศวกรกําลังหาทางที่จะหยุดยั้งการเอนและอนุรักษ์ให้มีสภาพเอียงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ชมไปอีกนานๆ สําหรับหอเอนปิซ่านี้ภายในมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายด้วยฝีมือจิตรกรชื่อดังแห่งยุคได้สลักลวดลายไว้สวยงามมาก ณ ที่หอเอนปิซ่าแห่งนี้ เป็นที่ที่กาลิเลโอขึ้นไปทําการทดลองทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับแรงดึงดูดของโลก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5) (อาหารจีน)
นําท่านเดินทางสู่ เกาะเวนิส – เมรเตร้ เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน” มีเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง เดินทางสู่ เกาะซานมาร์โค (ระยะเวลาในการนั่งเรือ ประมาณ 30 นาที) ศูนย์กลางของนครเวนิส ระหว่างทางท่านจะ ได้ชมอนุสาวรีย์ของพระเจ้าวิคเตอร์เอมานูเอลที่ 2 บิดาของชาวอิตาเลี่ยน ให้ท่านได้ถ่ายภาพคู่กับสะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง “Doge Palace” ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังเป็น ศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้นอีกด้วย ชมจัตุรัสเซนต์มาร์คโค ที่มีโบสถ์เซนต์มาร์คเป็นฉากหลัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิสตามอัธยาศัย อาทิ เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตํารับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมี รูปแบบ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ได้เวลาสมควรนําท่านเดินทางกลับเมืองเมสเตร้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 6) (อาหารพื้นเมือง พิซซ่าต้นตํารับอิตาลี + อาหารจานหลัก (เมนคอร์ส) + ของหวาน)
พักค้างคืน ณvVoco Venice Mestre (ระดับ 4ดาว) หรือเทียบเท่า(คืนที่ 3)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 7)
นําท่านเดินทางไปยัง เมืองมิลาน เป็นเมืองหลวงของแคว้นลอมบาร์เดีย และเป็นเมืองสําคัญในภาคเหนือของ ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นใน ลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม นอกจากนี้มิลานยังเป็นที่รู้จักจากประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า ปาเนตโตเน (Panettone) อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึง สโมสรฟุตบอล อินเตอร์มิลาน และ สโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน ถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) เป็นสัญลักษณ์ ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนาน ถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปั้นนับกว่า 3,000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8) (อาหารจีน)
นําท่านเดินทางโดยรถโค้ช สู่ เมืองอินเทอร์ลาเค่น เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันลือชื่อ, นาฬิกาดอกไม้, สถานคาสิโน ฯลฯ ให้ท่านเดินเล่นพักผ่อน ชื่นชมบรรยากาศของตัวเมืองที่มีทุ่งหญ้ากว้างกลางเมือง มีสวนดอกไม้ เล็กๆ น่ารักสร้างสีสันให้ตัวเมือง รวมทั้งมีอาคารคาสิโนคูซาลอายุกว่า 100 ปีที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และยังเป็นคาสิโนของเมืองอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 9) (ฟองดูว์ ต้นตํารับสวิตเซอร์แลนด์)
พักค้างคืน ณ Metropole // The Hey Hotel Mainbuilding (ระดับ 4ดาว) (คืนที่ 4)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 10)
นําคณะออกเดินทางโดยรถโค้ชมุ่งหน้าขึ้นสู่ เมืองเลาเทอร์บรุนเน่น เพื่อนําท่านขึ้นรถไฟ สายจุงเฟราบาห์เนน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์แบบสวิสเซอร์แลนด์ขนานแท้ ที่มีทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ดอกไม้ป่าบาน สะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ หรือใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ล่วง บ้านหลังน้อยใหญ่ปลูกแบบน่ารักๆทรงสวิสชาเลต์ ฝูงวัวพื้นเมืองที่กระจัดกระจายแทะเล็มหญ้าอยู่ทั่วบริเวณ ลําธารน้ําธรรมชาติเล็กๆที่ใสสะอาดและฉากหลังที่มีภูเขาหิมะตั้งตระหง่านขาวโพลน ซึ่งจะทําให้คณะได้รับความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง นั่งรถไฟชมวิวท่องเที่ยวธรรมชาติ บนภูเขาสูงแห่งแอลป์ แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสายภูเขาที่สถานีไคลน์ไชเด็ก รถไฟที่จะนําท่านเดินทางลอดอุโมงค์ที่ ชาวสวิสฯ ได้ขุดเจาะไว้ที่ความสูงถึง 3,464 เมตร จนกระทั่งถึง สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป Top of Europe บน ยอดเขาจุงเฟรา ซึ่งมีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) จุดสูงสุดคือลานน้ําแข็งขนาดใหญ่เรียกว่า Sphinx นักท่องเที่ยวหลายๆคนบอกว่าที่นี่สว ที่นี่สวยงามดุจดินแดนแห่งสวรรค์ เพราะยอดเขาแห่งนี้ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านถ่ายภาพความประทับใจตามอัธยาศัยกับแบบจุใจ ไม่มีเร่งรีบ
จากนั้นนําท่าน ชม ถ้ำน้ําแข็ง 1,000 ปี ที่สร้างโดยการเจาะธารน้ําแข็งเข้าไปถึง 30 เมตร พร้อมชมน้ําแข็งแกะสลักรูปร่างต่าง จากนั้นชมวิวทิวทัศน์ และสัมผัสหิมะที่ลานพลาโต Plateau และไม่ควรพลาดการส่งโปสการ์ดจากที่ทําการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกพร้อม ซื้อของที่ระลึกต่างๆตามอัธยาศัย นําท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร/11,716 ฟิต ท่านสามารถชมวิวได้รอบ 360 องศาจากระเบียงได้ประสบการณ์แสนประทับใจ เดินทางสู่ ยุงค์ฟราวยอร์ค-หลังคา ยุโรป ไปแล้วไม่ได้มาจุดชมวิว จุดนี้เหมือนมาไม่ถึง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันเมนูที่ดีที่สุด ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงฟราว (มื้อที่ 11)
นําท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร/11,716 ฟิต ท่านสามารถชมวิวได้รอบ 360 องศาจากระเบียงได้ประสบการณ์แสนประทับใจ จากนั้นนําท่านลง จากยอดเขาจุงเฟราไปยังสถานีรถไฟ ไอเกอร์ เกลทเชอร์ เพื่อนําท่านขึ้นกระเช้า The V-Cableways (กระเช้าใหม่ล่าสุด)ลงมายังเมืองกลินเดอร์วาวล์ Top of Europe ซึ่งรายล้อมไป
นําท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านอิเซล์ทวาลด์ ISELTWALD เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ Lake Brienz ด้วยวิวทิวทัศน์ของแนวเทือกเขาสูงใหญ่ ในฤดูร้อนก็จะมีแต่สีสันเขียว ๆ สดชื่นสบายตา น้ําในทะเลสาบเป็นสีฟ้า สวยใส บรรยากาศเงียบสงบ และมาโด่งดังสุดๆจากซี่รี่ย์เกาหลีชื่อดังอย่าง Crash Landing On You ที่มาถ่ายทํา ณ สถานที่แห่งนี้ ให้ท่านเดินเล่นชมเมืองที่สวยงามนี้
หลังจากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า เวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ อันหมายถึงทะเลสาบสี่พันธรัฐ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 12)
พักค้างคืน ณ ASTORIA LUCERNE // Radisson Blu Lucerne (ระดับ 4 ดาว) หรือเทียบเท่า (คืนที่ 5)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 13)
นําท่านชม สะพานไม้ชาเปล สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น สะพานไม้ที่เก่าแก่มีอายุหลายร้อยปี นําท่านชม อนุสาวรีย์สิงโต สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และกล้าหาญของชาวสวิสเซอร์แลนด์ ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการ ต่อสู้ป้องกันพระราชวังในคราวปฏิวัติใหญ่ของฝรั่งเศสแกะสลักอยู่บนหน้าผาหิน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง (ไม่ใช่วิ่งชมเมือง) หรือ ช้อปปิ้ง นาฬิกาสวิสฯ อาทิ ROLEX,PANERAI, OMEGA, IWC, PATEK PHILLIP เป็น ต้น หรือเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกเช่น มีดสวิสฯ พร้อมสลักชื่อ, สินค้าพื้นเมืองของที่ระลึก, ช็อคโกแลต เป็นต้น
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองซุก เป็นเมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเมืองซุกเคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ย น้อยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์แต่ปัจจุบันซุกคือเมืองที่รวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ โดยเรียกเก็บค่าภาษีในอัตราต่ำ ที่สุดในโลก ทําให้เป็นข้อได้เปรียบในเชิงการต่อรองราคาทางธุรกิจ และยังติดอันดับเมืองที่สะอาดที่สุดหนึ่งในสิบ ของโลกอีกด้วย ให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับ CLOCK TOWER ที่มีความสูง 52 เมตร มองเห็นได้มาแต่ไกล สร้างขึ้นใน ศตวรรษที่ 13 หลังคาเป็นสีฟ้าขาวและนาฬิกาที่ตั้งอยู่เป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ที่สามารถบอกข้างขึ้น ข้างแรมของ พระจันทร์ได้ ให้ท่านอิสระเดินเล่นชมบ้านเรือน และทะเลสาบของเมืองซุก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 14) (อาหารไทย)
จากนั้นออกเดินทางโดยรถโค้ชข้ามพรมแดนของสวิสเซอร์แลนด์ – ฝรั่งเศส เดินทางผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่สู่เขต แคว้นเบอร์กันดีที่มีการปลูกลูกมัสตาร์ดเพื่อนํามาผลิตมาเป็น “มัสตาร์ด” อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นดีของ ประเทศฝรั่งเศส เดินทางเข้าสู่ เมืองดีจอง ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งที่สวยงามของประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่ง แคว้นเบอร์กันดีชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรเนสซองส์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 15) (อาหารพื้นเมือง สไตล์ฝรั่งเศส )
พักค้างคืน ณ MERCURE DIJON CENTRE CLEMENCEAU หรือเทียบเท่า (คืนที่ 6)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 16)
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่เมืองปารีส ด้วยรถไฟด่วน TGV เพลิดเพลินและสนุกสนานกับความสะดวกสบาย ด้วย ความเร็วกว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ไม่ต้องลากกระเป๋าใหญ่ไปให้ลําบาก เพราะเรามีรถบัสขนสัมภาระไปให้ท่าน ) (ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชม. 45 นาที) จนกระทั่งถึงกรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ําแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศสบนใจกลางแคว้น อีล-เดอ-ฟรองซ์ จากการตั้งถิ่นฐานมากว่า 2,000 ปี เมือง ปารีส มหานครซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองหลวงด้านแฟชั่น ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์อัน สวยงามของทุ่งดอกเรบซีด ไร่องุ่น และหมู่บ้านชนบทของฝรั่งเศสจนกระทั้งเข้าสู่เมืองปารีส
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 17) (อาหารจีน)
นําท่านเดินทางไปยัง แวร์ซาย อดีตเมืองหลวงและศูนย์กลางการเมืองการปกครองในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 อยู่ ห่างจากปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร นําท่านเข้าชม พระราชวังแวร์ซาย (มีไกด์ ท้องถิ่นบรรยาย ในแต่ละห้องข้อมูลแน่นปึ๊ก ที่สําคัญเที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) พระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ ใหญ่ที่สุดในปฐพี ชมความอลังการของพระราชวังซึ่งได้รับการตกแต่งไว้อย่างหรูหราวิจิตรบรรจง ชมความงดงาม ของห้องต่างๆ อาทิเช่น ห้องอพอลโล, ห้องนโปเลียน ห้องบรรทมของราชินี, ห้องโถงกระจกท้องพระโรง, ห้องสงครามและสันติภาพ รวมถึงเรื่องราวและความเป็นมาของอดีตอันยิ่งใหญ่ของพระราชวังแห่งนี้
หลังจากนั้นนําท่านสู่ใจกลางกรุงปารีส เข้าชมความยิ่งใหญ่ อลังการ ณ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ข้อมูลแน่นปึก ที่สําคัญ เที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) หรือในชื่อทางการว่า THE GRAND LOUVRE เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดเก่าแก่ ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตัวตึกที่ตั้งอยู่เคยเป็นพระราชวังมาก่อน โดยกษัตริฟิลิป-ออกัสตัส สร้างเป็น ป้อมปราการ จากนั้นพระเจ้าชาร์ลที่ 5 ได้ขยายป้อมปราการลูฟร์ให้เป็นพระราชวัง พระเจ้าหลุยส์ 13 และ 14 เคย ประทับอยู่ที่นี่ ปัจจุบันลูฟร์เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจํานวน มากกว่า 40,000 ชิ้น มีตั้งแต่ศิลปะสมัยอีทรัสกัน กรีก โรมัน อียิปต์ภาพเขียนและปฏิมากรรมยุคเรเนสซองซ์ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับพีระมิดแก้ว ซึ่งเป็นทางเข้าหลักออกแบบโดยสถาปนิกเชื้อสายอเมริกัน – จีน นําท่านชื่นชม ภาพวาด โมนาลิซา ของลีโอนาร์โด ดาวินชี จิตรกรและสถาปนิกอัจฉริยะชาวอิตาเลียน ภาพวาดชวนพิศวงเนื่องมาจากรอยยิ้ม อันเปี่ยมด้วยเลศนัยของนางที่อยู่ในภาพ จนทําให้ผู้คนวิจารณ์กันมากว่าแท้จริงแล้วโมนาลิซ่า คือใครกันแน่ เป็น บุรุษหรือสตรี ชมรูปปั้นภาพเทพธิดาวีนัส (VENUS DEMILO) และศิลปะสําคัญของโลกภายในพิพิธภัณฑ์
ได้เวลาอันสมควรนําท่านเดินทางสู่ ร้านปลอดภาษี เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าต่างๆ มากมาย อาทิเช่น เครื่องสําอาง, น้ําหอม, เครื่องประดับ, กระเป๋าหนัง และเครื่องหนังอื่นๆ รวมทั้งเสื้อผ้า BRAND NAME จากฝรั่งเศส
ค่ำ รับประทานอาหารแบบพื้นเมืองฝรั่งเศส (เมนูหอยเอสคาโก้อบเนย ,ท่านสามารถ เลือก สเต๊กสไตล์ฝรั่งเศส 1 อย่าง อาทิเป็ ดอบซอส/ ปลา / เนื้อวัว/แกะ พร้อมจิบไวน์ฝรั่งเศส ตบท้ายด้วยของหวาน ) (ม้ือที่18)
พักค้างคืน ณ NOVOTELPARIS CENTRE TOUR EIFFEL //RENAISSANCE PARIS LA DEFENSE HOTEL //LA DEFENSE เทียบเท่า(ระดับ 4 ดาว) หรือเทียบเท่า (คืนที่ 7)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 19)
นําท่านถ่ายภาพ หอไอเฟล เป็นที่ระลึกจากมุมกว้างซึ่งเป็นจุดที่สวยที่สุดและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากนั้นนําท่าน ขึ้นลิฟท์สู่ชั้น 2 ของหอไอเฟิล สัญลักษณ์ของนครปารีสเลิศหรูอลังการโรแมนติค เป็นหอสูงสร้าง ด้วยโครงเหล็กทั้งหมด โดยชาวฝรั่งเศสชื่อ กุสตาฟ เอฟเฟล มีความสูง 984 ฟุต ใช้เหล็กทั้งหมด 7 พันตัน สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1887 เพื่อเป็นประติมากรรมฉลองครบรอบ 100 ปีหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส ท่ามกลางเสียงคัดค้านของ ประชาชนในสมัยนั้นว่า รูปทรงน่าเกลียดอัปลักษณ์เป็นที่สุด หารู้ไม่ว่าอีกไม่กี่สิบปีต่อมา หอเหล็กสูง 324 เมตร น้ําหนัก 10,000 ตันนี้ จะกลายเป็นสัญลักษณ์ประจําเมืองที่คนทั่วโลกอยากมาเห็น ให้ท่านได้เพลิดเพลินสนุกสนาน ชมทัศนียภาพอันสวยงามของกรุงปารีส ได้อย่างทั่วถึงและจุใจ
นําท่านเดินทางสู่ ท่าเรือบาตามูซ เพื่อล่องเรือแม่น้ําแซน ชมวิวทิวทัศน์กันบนดาดฟ้าเรือ ชื่นชมความงามของ ทัศนียภาพของนครปารีส ชมสถานที่สําคัญคู่บ้านคู่เมืองสองฝั่งของแม่น้ําแซน โบราณสถาน และอาคารที่เก่าแก่ สร้างด้วยศิลปะแบบเรเนสซองส์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ตลอดทางท่านจะได้ความประทับใจกับความสวยงามของ ทัศนียภาพที่ร่วมกันสรรสร้างให้นครปารีส ได้ชื่อว่าเป็นนครที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อาทิเช่น สะพานอเล็กซานเดอร์, ศาลาว่าการ, จัตุรัสคองคอร์ด, โรงกษาปณ์, เกาะอิลเดอลาซิเต้ ศูนย์กลางเมืองแห่งแรก สถาน ที่ตั้ง มหาวิหารนอเตรอดาม หรือโบสถ์นอเตรอดาม สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิคที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีอย่าง งดงาม ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่สําหรับพิธีราชาภิเษกนโปเลียนขึ้นครองราชย์ มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี และทําให้ ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามแห่งหนึ่งของโลก (ในกรณีที่น้ําในแม่น้ําแซนขึ้นสูงกว่าปกติหรือมีเหตุการณ์ สุดวิสัย เช่น การนัดหยุดงาน เป็นต้นรายการล่องแม่น้ําแซนอาจจะไม่สามารถดําเนินการได้)
จากนั้นนําท่านไปชม ประตูชัย สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของนโปเลียน และให้ท่านเดินเล่นชมสองฟากฝั่ง ถนนชองป์ เซลิเซ่ ต้นแบบถนนราชดําเนินของไทย ซึ่งเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านค้าแบรนด์เนมจากดีไซเนอร์ชื่อก้องโลก นําท่านผ่านชม จัตุรัสคองคอร์ด สถานที่สําคัญที่สุดแห่งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสและยุโรป เป็นลาน ประหารที่ตั้งกิโยติน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนนับพันในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศสปี ค.ศ. 1789
อาหารกลางวันและอาหารค่ำ อิสระตามอัธยาศัยเพื่อสะดวก และให้เวลากับการช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แกลลารี่ ลาฟาแยตต์ ซึ่งมี สินค้าแบรนด์เนมทุกยี่ห้อรวมถึง LOUISE VUITTON ท่านที่ไม่มีความประสงค์ช้อปปิ้งสามารถเดินชมความงาม ของบ้านเมืองและโรงละครโอเปร่าที่เก่าแก่สวยงาม เพราะย่านช้อปปิ้งอยู่กลางเมือง มีอาคารบ้านเรือนสวยงามมาก
ได้เวลาอันสมควร นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินชาร์ลเดอร์โกลเพื่อทำการเช็คอิน และทำ TAX REFUND
21.55 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ EK076 ( 21.55 น. – 06.35 น.) / EK372 (09.40 น. –19.15 น. ) แวะเปลี่ยน เครื่องที่สนามบินดูไบ บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
19.15 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิด้วยความสวัสดี...พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
1) ค่าตั๋วเครื่องบิน (ECONOMY CLASS) ที่ระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมคณะ ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกิน จํานวนวัน จํานวนคนและมีค่าใช้จ่ายที่ทางสายการบินกําหนด (น้ําหนักกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 25 กิโลกรัม/กระเป๋าถือขึ้น เครื่องท่านละ 7 กิโลกรัม)
2) ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3) ค่ารถโค้ชปรับอากาศนําเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชํานาญเส้นทาง (กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชั่วโมง/วัน)
4) ค่า COACH TAX และค่าภาษีผ่านเข้าเมืองต่างๆ
5) ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการพร้อมอาหารเช้าหรือเทียบเท่า (โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น, ราคาโรงแรมอาจมีการปรับขึ้นหลายเท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับช่วงงาน เทศกาล งานแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลทําให้ต้องมีการเปลี่ยนย้ายเมือง โดยทางบริษัทฯ จะคํานึงถึงความ เหมาะสมและผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสําคัญ)
6) ค่าอาหารเลิศรสทุกมื้อที่ระบุตามรายการ
7) ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
8) ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบยื่นปกติ (ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่าให้ ไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่)
9) ค่าบริการนําทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์
10) ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในวงเงิน 200,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
11) ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (เฉพาะค่าบริการ)
1) ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
2) ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษในร้านอาหาร นอกเหนือจากที่บริษัทฯจัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ
3) ค่าน้ําหนักส่วนที่เกิน 25 กิโลกรัม และมีจํานวนมากกว่า 1 ชิ้น (ระเบียบของสายการบิน)
4) ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 1,000 บาท ต่อท่าน
5) ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป 25 ยูโร ต่อท่าน
181/88 ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700