ทัวร์ยุโรป ฝรั่งเศส เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์

17.00 น.   พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน EMIRATES (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร

20.35 น.  นำท่านเดินทางสู่ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดย สายการบิน EMIRATES (EK)  เที่ยวบินที่ EK373

00.50 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

03.20 น.    นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส ชาร์ล เดอ โกล เที่ยวบินที่ EK071

08.00 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปารีส (Paris) (ระยะทาง 23 กม. / 45 นาที) เมืองหลวงประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน ผู้คนเรียกว่า "เมืองแห่งความรัก"       เช็คอิน ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) ที่มีอายุกว่า 200 ปี และถูกจัดอันดับประตูชัยที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีรูปแกะสลักที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ รวมทั้งสดุดีการเสียสละแก่วีรชนทหารกล้า จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณด้านนอก หอไอเฟล (Eiffel Tower) แลนด์มาร์คสำคัญของประเทศฝรั่งเศส  และยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย ตัวอาคารก่อสร้างโดยโครงเหล็กทั้งหมด สูงเท่ากับตึก 81 ชั้น

เที่ยง      รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่1)   

จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมด้านนอก พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะและโบราณคดี หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดและโด่งดังที่สุดในโลก โดยมีผู้เข้าชมมากกว่า 9 ล้านคนต่อปี

อิสระช้อปปิ้งกันที่ ห้างปลอดภาษี Benlux Louvre duty free เป็นห้างชื่อดังใจกลางกรุงปารีส ซึ่งคุณจะได้พบกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ จากทั่วโลก ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) เป็นห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ภายในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ในปัจจุบันมีสาขาแบ่งอยู่ตามเมืองใหญ่ๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ รวมแล้วทั้งหมด 61 แห่ง  เปิดประสบการณ์ ล่องเรือแม่น้ำแซน โดย บาโต มูช (Bateaux-Mouches) (ประมาณ 1 ชั่วโมง) มีการบรรยายเกี่ยวกับประวัติเมืองปารีสตลอดทั้งสายการเดินทางระหว่างสองข้างทางที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารน็อทร์-ดาม, หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เป็นต้น

Highlight !  อาหารขึ้นชื่อฝรั่งเศส หอยเอสคาโก้  ในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า Escargots au beurre persillé หอยอบที่ปรุงด้วยกระเทียม เนย และสมุนไพร ถือเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยชั้นดี  😋

เย็น     รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่2)  เมนูพิเศษ!! หอย Escargot 

ที่พัก : Mercure Orly Paris Rungis หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)

จากนั้นเดินทางสู่ เมืองดิฌง (Dijon) ประเทศฝรั่งเศส (ระยะทาง 303 กม./ 4.30 ชม.) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของไวน์ชั้นเลิศ และยังเป็นเมืองที่มีความเกี่ยวพันกับคริสต์ศาสนามากอีกด้วย

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่4)

นำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านนอก มหาวิหารดิฌง (Dijon Cathedral)  ซึ่งเป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญเบนีญแห่งดีจอง โดยในสมัยแรกมีสถานะเป็นเพียงโบสถ์แห่งนักบุญเบนีญ และต่อมาในปี ค.ศ. ได้เป็นที่ตั้งของมุขมณฑลดีจอง และภายหลังได้ปรับยกสถานะเป็นอัครมุขมณฑลดีจองในปี ค.ศ. 2002

นำท่านถ่ายรูปด้านนอก พระราชวังดยุกแห่งเบอร์กันดี  (Palace of the Dukes of Burgundy)  ตัวพระราชวังมีความงดงามดึงดูดใจอีกทั้งยังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับราชวงศ์ สุสาน และการเมือง ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ที่จัดแสดงผลงานศิลปะอันหลากหลาย รวมถึงประวัติศาสตร์ของพระราชวังโดยละเอียด

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) (ระยะทาง 251 กม. / 3.45 ชม.) เป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นเมืองที่ยังคงลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศของเมืองโบราณไว้ ทั้งพิพิธภัณฑ์ ศาสนสถาน ห้องสมุด น้ำพุ รูปปั้น ร้านค้าต่างๆ

เย็น      รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่5)

ที่พัก : Mercure Colmar Centre Unterlinden หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน

(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนวันเดินทาง)

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่6)

นำท่านเดินทางสู่ เวนิสน้อย (Little Venice) เป็นชื่อที่มอบให้กับเส้นทางในเมืองกอลมาร์ จากแนวบ้านทั้งสองฝั่งแม่น้ำ  ย่านเมืองเก่า (Old Town) เป็นย่านที่มีมนต์เสน่ห์ บ้านทุกหลังดูสวยงามเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเฉพาะตัว อาคารกรมศุลกากรเก่า (old custom house) หรือเรียกว่า Koifhus โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลาง ยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากรัฐบาลฝรั่งเศสให้เป็น Monument Historic ที่ต้องอนุรักษ์ไว้ของประเทศด้วย

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่7)  

นำท่านเดินทางสู่ เมืองทิทิเซ่ (Titisee) ประเทศเยอรมัน (ระยะทาง 81 กม. / 1.15 ชม.) ตั้งอยู่ในเขตของป่าดำ ที่ปกคลุมไปด้วยป่าสนนับหมื่นไร่ และยังเป็นต้นกำเนิดของ “เค้กแบล็คฟอเรสต์” นำท่านเดินทางสู่                       ทะเลสาบทิทิเซ่ (Titisee Lake) ทะเลสาบที่มีความยาว 2 กิโลเมตร เต็มไปด้วยหมู่ต้นสน ต้นคริสต์มาส ที่ขึ้นกันหนาแน่น จนได้รับฉายาว่า Black Forest หรือป่าดำ 

นำท่านเยี่ยมชมโรงงานผลิตนาฬิกากุ๊กกู (Cuckoo Clock)  แกะสลักมาจากไม้สนจากป่าดำ ซึ่งการทำงานทั้งตีบอกเวลามีนกร้อง ตุ๊กตาเต้นรำ และคนเลื่อยไม้ ที่แสดงถึงวิถีชีวิตชาวทิทิเซ่  ให้ท่านได้เลือกซื้อเป็นของที่ระลึก จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองไบรท์เนา (Breitnau) (ระยะทาง 10 กม. / 15 นาที) เป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ในภูเขาดงสน มีธรรมชาติที่งดงามและอากาศที่เย็นสบาย

เย็น    รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่8)

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่9)

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโกล เดอ ปิยง (Col De Pillon) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์  (ระยะทาง 292 กม. / 4.30 ชม.) เป็นที่ตั้งของสถานี จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้าลอยฟ้า สู่ ยอดเขากลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000) มีความสูงเกือบ 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชมทิวทัศน์อันงดงามของท้องฟ้าและเทือกเขามากมายแบบพาโนราม่า  และให้ท่านท้าทายความสูงเดินบนสะพาน "The Peak Walk by Tissot"  สะพานแขวนที่มีความยาว 107 เมตร ข้ามหน้าผาที่ระดับความสูง 3,000 เมตร ทำให้เป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในโลก อิสระให้ท่านสนุกสนานกับกิจกรรมตามอัธยาศัย  (ราคาทัวร์รวม Peak walk and View point / Glacier Walk / Ice Express (chairlift) / Fun Park กรุณาเช็คเครื่องเล่นต่างๆ กับหัวหน้าทัวร์อีกครั้ง)

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่10) ณ ภัตรคารบนยอดเขา

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) (ระยะทาง 41 กม./ 45 นาที) เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักริมทะเลสาบเจนีวาที่ล้อมรอบด้วยไร่ไวน์และมีแบล็คกราวด์เทือกเขาแอลป์

เย็น     รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่11)

ที่พัก : Modern Times Hotel หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน  

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่12)

นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทชิลยอง (Château de Chillon) (ระยะทาง 8 กม./ 15 นาที) ปราสาทสไตล์กอทิก  ที่มี    ความเก่าแก่กว่า 1,000 ปี สัญลักษณ์ประจำเมืองมองเทรอซ์ ตั้งอยู่ริมทำเลสาบเจนีวา เป็นที่พักร้อนของ    ราชวงศ์ซาวอย ซึ่งถือได้ว่าเป็นอัญมณีทางประวัติศาสตร์ของสวิตเซอร์แลนด์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) (ระยะทาง 89 กม. / 1.30 ชม.) เมืองมรดกโลกอันล้ำค่าที่ได้รับการอนุรักษ์มาสู่ปัจจุบันเบิร์น องค์การยูเนสโกประกาศให้ส่วนหนึ่งของเบิร์นเป็นเมืองมรดก  นำท่านผ่านชม นาฬิกา ไซ้ท์ กล็อคเค่ (ZYT GLOGGE Clock Tower) ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 อายุ 800 ปี มีโชว์ให้ดูทุกๆ ชั่วโมง ที่นาฬิกาตีบอกเวลา ไอน์สไตน์เฮาส์ (Einstein House) บ้านเลขที่ 49 ถนนแครมกัซเซอ บ้านที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยอาศัยอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลกคนนี้ บ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Pit) เมื่อมาถึงเมืองนี้ก็ต้องแวะเข้ามาชมเจ้าหมีก่อน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น เพราะว่ามีประวัติสมัยผู้ครองเบิร์นในยุคนั้นได้ออกล่าสัตว์ สัตว์ตัวแรกที่ล่าได้ คือ หมี ศาลากลางกรุงเบิร์น (Town Hall) อาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของสภาแกรนด์แห่งเบิร์น อาคารแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกยูเนสโกเมืองเก่าแห่งเบิร์นและเป็นมรดกของสวิสที่มีความสำคัญระดับชาติ

เที่ยง      รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่13) 

                      นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา (ระยะทาง 112 กม. / 1.45 ชม.)  นำท่านชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิตที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ทอดข้ามผ่าน แม่น้ำรอยส์ ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์นเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน  อิสระเดินเล่นที่ Schwanenplatz มีร้านค้ามากมายที่นี่ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร มีโรงงานนาฬิกาโรเล็กซ์ในบริเวณนี้ด้วย ร้านค้ารอบๆขายงานฝีมือสวิสท้องถิ่น ร้านค้าบางร้านขายของที่ระลึก ช็อคโกแลต เครื่องประดับ ฯลฯ

เย็น       รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่14)

ที่พัก : Ibis Luzern Kriens หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่15)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (ZUG) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ระยะทาง 34 กม. / 45 นาที) เป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ และซุกเป็นเมืองที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของโลกเมืองที่สะอาดที่สุด

อิสระช้อปปิ้งที่  Lohri AG Store ที่มีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชม อาทิ เช่น Patek Philippe, Omega, Tag Heuer ฯลฯ

เที่ยง    รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่16) 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) (ระยะทาง 94 กม. / 1.30 ชม.) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ในวงล้อมของประเทศเยอรมนีทั้ง 3 ทิศทาง โดยมี น้ำตกไรน์ (Rhein fall) ไหลผ่านเมือง ให้ท่านชมความงามของ น้ำตกไรน์เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป ตั้งอยู่บนแม่น้ำไรน์บริเวณพรมแดนระหว่างรัฐชาฟเฮาเซินกับรัฐซูริค น้ำตกแห่งนี้มีความกว้าง 150 เมตรและสูง 23 เมตร ให้ท่านอิสระถ่ายภาพเก็บความประทับใจกับความสวยงามของน้ำตกไรน์

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich) (ระยะทาง 52 กม. / 1 ชม.) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นศูนย์รวมทุกสิ่งของประเทศ เป็นเมืองเก่าเต็มไปด้วยอาคารยุคกลางและพิพิธภัณฑ์  อิสระเดินเล่น                     ถนนบานโฮฟซตราเซอร์ (Bahnhofstrasse) ถนนการค้าเก่าแก่ที่รุ่งเรือง ตลอดสองข้างทางของถนน เรียงรายด้วยร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลกมากมาย จนได้ชื่อว่า “ถนนช้อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก”

เย็น    อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัยเพื่อเป็นการไม่รบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ (ระยะทาง 10 กม. / 15 นาที)

21.50 น.  เดินทางกลับประเทศไทย โดย สายการบิน EMIRATES (EK)  เที่ยวบินที่ EK086

07.05 น.   เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

08.55 น.   เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดย สายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK370

18.05 น.   เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ