23.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิชั้น 4 ประตู 10 บริเวณจุดรวมพลของคณะ โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง
04.20 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถานเที่ยวบินที่ T5 642 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)
09.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาชกาบัต เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบินประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที (เวลาท้องถิ่นที่อาชกาบัตช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง)
11.30 น. ออกเดินทางสู่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลีโดยเที่ยวบินที่ T5 443 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)
14.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นของยุโรปช้ากว่า ประเทศไทย 5 ชม. ในฤดูร้อน และ 6 ชม.ในฤดูหนาว) หลังนําท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
นําท่านชมเมืองมิลาน (MILAN) เป็นเมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดียและเป็นเมืองสําคัญในภาคเหนือของ ประเทศอิตาลี เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะ เดียวกับนิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และโรม นําท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ มหาวิหารดูโอโม่ (DUOMO DE MILAN) มหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่ด้วยความสูง 157 เมตร และกว้างถึง 92 เมตร อีกทั้งเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศอิตาลีรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่ ตั้งอยู่ที่รัฐอิสระวาติกัน มหาวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลานนับว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิ ลานก็ว่าได้ จากนั้น อิสระชอปปิ้งบนถนนชอปปิ้งชื่อดังระดับโลกอย่าง VIA VITTORIO EMANUELL 2 นอกจากนั้นยังมี กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเล (GALLERIA VITTORIO EMANUELE II ) ซึ่งเป็น ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดของอิตาลีและเป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่สวยงามหรูหราที่สุด แห่งหนึ่งของโลก นําท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ศิลปินชื่อดังในยุคเรอเนสซองซ์ ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มือ1)
นําท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว (อิตาลี)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (ม้ือ2)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (VERONA) (ระยะทาง 166 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆ ในแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การ UNESCO มีสมญานามว่า “Little Roman” โดยยังคงสภาพสถาปัตยกรรมจาก สมัยโรมันไว้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางศิลปะ และวัฒนธรรมเก่าแก่ที่ยังมี ให้เห็นในงานนิทรรศการประจำปี โรงละคร และโอเปร่าในโรงละครกลางแจ้งที่มีมาแต่โบราณทำให้ เมืองนี้เป็นต้นกําเนิดผลงานปลายปากกาของวิลเลียม เชกสเปียร์ โดยเฉพาะโศกนาฏกรรมตํานานรัก ที่คุณจะได้สัมผัสกลิ่นอายของความรักตลบอบอวลไปทั้งเมืองอมตะของโรมิโอจูเลียต
นําท่านชม บ้านของจูเลียต (CASA DI GIULLETTA) ตั้งอยู่ที่ถนน VIACAPPELLO โดยในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยว คู่รัก หนุ่มสาวจํานวนบ้านหลังนี้ บริเวณกําแพงของบ้าน มากที่แวะเวียนไปถ่ายรูปที่ระเบียง เต็มไปด้วยข้อความบอกรัก และคํา อธิษฐานเกี่ยวกับความรักเขียนทับกันไปมาจนแทบไม่เห็นพื้นผิวกําแพงเดิม ชมระเบียงหินอ่อนเล็ก ๆ ที่จู เลียตเคยยืนอยู่โดยมีโรมิโอ มาคอยเฝ้าขอความรักอยู่ด้านล่าง บริเวณบ้านมีรูปปั้นจูเลียต ว่ากันว่าใครอยากสมหวังในเรื่องความรักก็ให้ไป จับที่หน้าอกของจูเลียต จากนั้น นําท่านชมภายนอกของ สเตเดี้ยมของเมืองเวโรนา (STADIUM DE VERONA) ตั้งอยู่ภายในบริเวณ PIAZZA BRA เป็นสถาปัตยกรรมศิลปะโรมันโบราณอายุกว่า 2,000 ปี สามารถจุคนได้กว่า 15,000 คน มีขนาดใหญ่ติด 1 ใน 3 สเตเดี้ยมของอิตาลี คล้ายกับโคลอซเซี่ยมที่กรุงโรมได้เวลาสมควรนําท่านเดินทางสู่ เวนิสเมสเตร้ (VENICE MESTRE) (ระยะทาง 131 ก.ม. ใช้เวลา เดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองแห่งสายน้ํา ความสวยงามตรึงใจของที่นี่เหมือนได้อยู่ในโลก นิทาน มีเอกลักษณ์ที่ไม่มีที่ไหนเหมือน นําท่านเปลี่ยนการเดินทางด้วยเรือยอร์ชส่วนตัว (ใช้เวลา ล่องเรือประมาณ 30 นาที) เข้าสู่ เกาะเวนิส (VINICE) ราชินีแห่งทะเลเอเดียตริก แหล่งท่องเที่ยว ในฝันของคนทั่วโลก เมืองอันแสนโรแมนติกซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของคู่รัก
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ3)
จากนั้นนําท่านเดินเยี่ยมชมจุดสําคัญต่าง ๆ ของเกาะเวนิส อาทิเช่น มหาวิหารเซนต์มาร์ก (ST.MARK'S BASIICA) มหาวิหารที่ตั้งอยู่บน จัตุรัสซานมาร์โค (PIAZZA SAN MARCO) กลางเมืองเวนิส เป็นมหาวิหารที่ได้รับสมญานามว่า โบสถ์ทองตั้งแต่ในศตวรรษที่ 11 ผ่านชม พระราชวังดอส์ (DOGE'S PALACE) เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในเวเนเชี่ยนโกธิคสไตล์ พระราชวังเคยเป็นที่พํานักของดยุคแห่งเวนิสที่มีอํานาจสูงสุดของอดีตสาธารณรัฐ สร้างขึ้นในปี 1340 และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ใน ปี 1923 ชม สะพานทอดถอนใจ (BRIDGE OF SIGHTS) เป็นสะพานที่เชื่อมต่อกับคุก นําท่านชม สะพานริอัลโต (RIALTO BRIDGE) เป็นหนึ่งในสะพานข้ามคลองใหญ่แกรนด์คาแนลที่มีความเก่าแก่ ที่สุด และยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันมากที่สุดอีกด้วย แต่เดิมสะพานสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1181 และได้มีการรื้อสร้างใหม่ด้วยหิน จนเป็นสะพานที่มีความสวยงามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน สะพานแห่งนี้เป็นตัวเชื่อมย่านสําคัญของเวนิส ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย อิสระให้ท่านถ่ายรูปชมเมืองที่สวยงามทุกมุมมอง และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย
นําท่านเข้าสู่ที่พักระดับ 4 ดาว (อิตาลี)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ4)
นําท่านเดินทางสู่ เขตอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ (DOLOMITES NATIONAL PARK) (ระยะทาง 160 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ (ALPS) ที่ครอบคลุมพื้นที่ของหลายๆ ประเทศในทวีปยุโรป ซึ่ง อิตาลี ก็เป็นหนึ่งในนั้น ชมวิวทิวทัศน์ตระการตาของหุบเขาและ ผาหิน รวมถึงทะเลสาบที่แอบซ่อนอยู่ตามมุมเขา ทัศนียภาพที่งดงามราวกับสรวงสวรรค์ของที่นี่ อีกทั้งยังเป็นสถานที่สุดประทับใจมากที่สุดแห่งหนึ่งสําหรับนักเดินทางจากทุกมุมโลก
นําท่านเดินทางสู่เขต อุทยานแห่งชาติ (FANES SENNES BRAIES) (เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลาง เทือกเขาโดโลไมท์ นําท่านชมความสวยงามของ ทะเลสาบเบรียส (LAGO DI BRAIES) ถ่ายภาพ ความงดงามของทะเลสาบ ซึ่งว่ากันว่าที่นี่เป็นประตูสู่ดินแดนใต้พิภพตามตํานาน ทุกๆร้อยปีในคืน
พระจันทร์เต็มดวงเจ้าหญิงในตํานานจะออกมาจากเนินเขา ทรงพายเรือรอบๆทะเลสาบพร้อมส่งเสียง แตรที่ดังกึกก้องไปทั่ว เทือกเขาโดโลไมท์ บ้างก็ว่าครั้งหนึ่งเคยมีถ้ำตรงเนินเขาก่อนจะมีหินถล่มปิด ปากถ้ำเหมือนจะฝังเจ้าหญิงไว้ ขัดขวางไม่ให้คืนความรุ่งโรจน์แก่อาณาจักรของพระองค์ตลอดกาล อิสระให้ท่านถ่ายรูป ชื่นชมความงามตามอัธยาศัย จากนั้น นําท่านชมทะเลสาบมิซูรินา (MISURINA LAKE) ด้วยบรรยากาศของท้องฟ้า มีภูเขาสูงเป็นฉากหลังสวยงาม มองเห็นวิวทิวทัศน์ยิ่งใหญ่อลังการของทะเลสาบ ทิวสนด้านข้าง อาคารสีเหลืองทอง และที่สําคัญสถานที่แห่งนี้อากาศ บริสุทธิ์มากจนไม่ควรพลาดที่จะสูดให้เต็มปอด ในฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมหนาทั่วทั้งบริเวณ น้ําจะ กลายเป็นน้ําแข็งหนากว่า 50 ซม. และในฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ อิสระให้ท่านถ่ายภาพความงดงามตามอัธยาศัย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ5)
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่เมืองออร์ทิเซ่ (Ortisei) เป็นเมืองรีสอร์ทเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Dolomites Val Gardena โดยมีเทือกเขาต่าง ๆอยู่รายล้อม เช่น Seceda, Resciesa, Alpe di Siusi, Monte Piz และ Col de Mesdi ฯลฯ ที่นี่จัดได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวโดโล ไมท์ในด้านตะวันตก จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนตลอดทั้งปี ในฤดูหนาวกิจกรรมหลักก็หนี ไม่พ้นการเล่นสกี ส่วนในฤดูร้อนก็เป็นการเดินป่า ปีนเขา ขี่จักรยาน ฯลฯ นําท่านขึ้นกระเช้า Gondola ropeway สู่ยอดเขา Alpe di Siusi ชมความงามของกลุ่มยอดเขา Langkofel ซึ่ง ประกอบด้วยทั้งหมด 6 ยอดเรียงติด ๆ กันเป็นวงโค้งล้อมรอบภูขาน้อยที่อยู่กึ่งกลางเอาไว้ราวกับว่าภูเขาน้อยลูกนั้นแทงทะลุจากใต้แผ่นดินขึ้นมา จนทําให้ภูเขาลูกใหญ่แตกออกเป็น 6 เสี่ยง เป็นลักษณะที่แปลกแตกต่างจากภูเขาอื่นๆ ได้เวลาอันสมควร นําท่านเดินทางสู่เมืองโบลซาโน หนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดของประเทศ อิตาลี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือใต้เงาของเทือกเขาแอลป์ สําหรับผู้รักธรรมชาติ วิถีชนบท
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ6)
นําท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 3 ดาว (อิตาลี)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ7)
นําท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บรูค (INNSBRUCK) (ระยะทาง 123 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่ และมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมถึงสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตกแต่งด้วยสีพาสเทล ดูไม่ฉูดฉาด แต่สร้างสีสันให้กับบ้านเมืองเป็น อย่างดี นําท่านเที่ยวชมเมืองอินส์บรูค โดยเริ่มจาก ประตูชัยทรงโรมัน (TRIUMPHPFORTE) ประตูชัยที่ไม่ได้สร้างขึ้นมาจากชัยชนะในสงคราม แต่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองงานอภิเษกสมรสนั้นเอง นําท่านถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ อาคารหลังคาทองคํา (GOLDEN ROOF) ถูกสร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของจักรพรรดิมาซิมิเลี่ยนที่ 1 เนื่องจากเวลาที่มีการจัดงาน เฉลิมฉลองบริเวณจัตุรัส พระองค์และราชินีจะประทับอยู่ที่ระเบียงของอาคารดังกล่าว อิสระให้ท่าน เดินเล่นชมเมืองเก่า เก็บภาพความประทับใจ และเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก เครื่องประดับที่ขึ้นชื่อ ซึ่ง เมืองอินส์บูรคเป็นต้นกําเนิดของเครื่องประดับคริสตัลที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง ชวารอฟสกี้ (SWAROVSKI)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ8)
จากนั้น นําท่านเดินทางสู่ เมืองชไตน์อัมไรน์ (STEIN AM RHINE) (ระยะทาง 278 กม. ใช้ เวลาเดินทางประมาณ 4 ซม.) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของ ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ติดกับชายแดนของประเทศเยอรมัน เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีเสน่ห์อย่างมาก โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมบ้านเรือนที่อนุรักษ์ไว้ตั้งแต่สมัยยุคกลาง ทําเลของเมืองอยู่ติดกับ ทะเลสาบซูริค (LAKE ZURICH) และ ทะเลสาบคอนสแตนส์ (LAKE CONSTANCE) ที่ไหลมา บรรจบกับ แม่น้ําไรน์ (RHEIN) แม่น้ําสายสําคัญที่ไหลผ่านหลายประเทศในยุโรปอีกด้วย ได้เวลาสมควรนําท่านเดินทางสู่ เมืองชาฟฟ์เฮาเซ่น (SCHAFFHAUSEN) (ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 30 นาที) นําท่านชมความยิ่งใหญ่ของ น้ําตกไรน์ (RHINE FALLS) เป็นน้ําตกที่เกิดจากแม่น้ําไรน์ ซึ่งมีน้ําสีเขียวมรกตใสไหลอย่างเชี่ยวกรากทําให้เกิดฟองขาวแตกกระเซ็นยามกระทบกับแก่งหิน ละอองน้ําที่กระจายปกคลุมไปทั่วเกิดภาพที่งดงามจับใจ
ได้เวลาสมควร นําท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (ZURICH) (ระยะทาง 50 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ซม.) ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสวิส และมีแม่น้ําลืมมันเป็นแม่น้ําที่ใหญ่ที่สุด ถึงแม้ว่าเมืองซูริคจะ ไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ แต่ก็มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นเมืองศูนย์กลางทางธุรกิจ ธนาคาร และ
วัฒนธรรมของประเทศอีกด้วย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ9)
นําท่านเข้าสู่ที่พักระดับ 4 ดาว (สวิตเซอร์แลนด์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ 10)
นําท่านเดินทางสู่เมือง เมืองลูเซิร์น (LUCERNE) (ระยะทาง 162 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เมืองที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุด นําท่านเที่ยวชมเมืองลูเซิร์น เมืองที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุด นําท่านถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์สิงโต (LION MONUMENT) อนุสรณ์รําลึกถึงการเสียชีวิตของทหารสวิสฯผู้ถวายการอารักขาแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในสงครามปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส
จากนั่นน่าชมเมืองเก่า เดินข้าม สะพานไม้คาเปล (CHAPEL BRIDGE) สะพานไม้ที่มี ชื่อเสียงที่สุดของลูเซิร์น ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่ มีหลังคาคลุมตลอดทอดตัวข้าม “แม่น้ํา รุซซ์” (Reuss) ถ่ายรูปกับ ทะเลสาบลู เซิร์น (LUCERNE LAKE) ที่สวยงามดุจราว กับภาพวาด โดยมีเทือกเขาแอลป์อยู่ เบื้องหลัง จากนั้นนําท่านเข้าสู่บริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง ชวาเน่นท์พลัทซ์ (SCHWANENPLATZ) ให้ท่านชอปปิ้งสินค้าขึ้นชื่อของประเทศ สวิตเซอร์แลนด์นานาชนิด อาทิ มีดพับสวิสฯ ช็อคโกแล็ต ของที่ระลึกต่าง ๆ และที่ท่านไม่ควรพลาด คือ นาฬิกายี่ห้อต่างๆ ที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ จากร้านตัวแทนจําหน่าย อาทิ บุคเคอเรอร์, กุบเบอลิน, เอ็มบาสซี่ ฯลฯ หรือ เดินเล่นชมย่านเมืองเก่าที่สวยทุกมุมมอง
อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ เมืองลูเซิร์น
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (ZUG) (ระยะทาง 31 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองเล็กน่ารักริมทะเลสาบซุก เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพสวยงาม ทั้งในเขตเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนในยุคกลางตั้งแต่ศตวรรษ ที่ 13 เป็นเมืองที่มีการเก็บภาษีที่มีอัตราต่ำที่สุดใน สวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองที่มีความสะอาดติดอันดับโลกอีกด้วย นําท่านชม เขตเมืองเก่า บ้านเรือนโบราณ จัตตุรัสน้ําพุโบราณ โบสถ์ที่สวยงาม ได้เวลาอันสมควรนําท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (COLMAR) (ระยะทาง 172 กม. ใช้เวลา เดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ฝรั่งเศส ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 เมืองที่โรแมนติกที่สุดในโลก ได้รับการขนานนามว่า เวนิสน้อย (LA PETITE VENISE) นําท่านชมทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองกอลมาร์ ที่ยังคงรักษา ความสวยงามแบบดั้งเดิมของอาคารบ้านเรือนสไตล์ HALF-TIMBERING ไว้ได้เป็นอย่างดี อิสระ ให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ และเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกจากร้านค้าที่มีอยู่ทั่วไป
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย
นําท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 3 ดาว (ฝรั่งเศส)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ 11)
นําท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านริควีร์ (RIQUEWIHR) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นหมู่บ้านเล็กๆในชนบทตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในแคว้นอัลซาส และเป็นอีก หนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส (Les plus beaux villages de France) นําท่าน เดินเล่น ชมหมู่บ้านที่มีลักษณะบ้านเรือนคล้ายๆกับกอลมาร์ แต่บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดิน เข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดา ด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆ เต็มไปหมด
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองริโบวิลล์ (RIBEAUVILLE) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 15 นาที) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่รายล้อมไปด้วยหมู่อาคารสมัยยุคกลางและยุคเรอเนสซองซ์ที่งดงามราวกับภาพวาดที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้มาเยือน อิสระให้ท่านเดินเล่น และถ่ายภาพความ งดงามตามอัธยาศัย นําท่าน ลิ้มลองชิมไวน์รสเลิศของแคว้น และซื้อเป็นของฝากคนทางบ้านตาม อัธยาศัย
เที่ยง อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควรนําท่านเดินทางสู่ เมืองสตารส์บูร์ก (STRASBOURG) (ระยะทาง 65 กม. ใช้ เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองในแคว้นกร็องแต็สต์ ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนฝั่ง แม่น้ําอีล ใกล้ชายแดนประเทศเยอรมนี เมืองสตารส์บูร์กได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสองวัฒนธรรม เนื่องจากยังคงมีกลิ่นอายความเป็นเยอรมันแทรกอยู่หลายๆอย่าง ในเขตเมืองเก่ายังคงอนุรักษ์ สถาปัตยกรรมแบบยุคกลางไว้ได้เป็นอย่างดี จนได้ขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ผ่านชม อาคารรัฐสภายุโรป (EUROPEAN PARLIAMENT) นําท่านชมย่านเมืองเก่า LE PETITE FRANCE เข้าชมภายใน มหาวิหารนอร์ทเทรอดาม (STRASBOURG CATHEDRAL) เป็นมหา วิหารแห่งแรกของฝรั่งเศสที่สร้างขึ้นมาในรูปแบบสไตล์โกธิก (Gothic) เป็นโบสถ์ที่ใช้เวลาสร้างนานถึง 400 ปี สร้างขึ้นจากหินทรายชมพูอมแดงภายในวิหารแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ บริเวณห้อง ใต้ดินซึ่งเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดภายในวิหาร และ บริเวณห้องโถงใหญ่ที่ออกแบบมาให้มีลักษณะ เป็นรูปเรือลําใหญ่ เมื่อมองขึ้นไปด้านบนจะพบกับการตกแต่งที่งดงามอีกด้วย นําท่านถ่ายรูป อาคารสถานีรถไฟ (GARE CENTRALE) ที่ตัวอาคารมีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง อิสระให้ท่าน เดินเล่นถ่ายภาพเลือกซื้อของที่ระลึกจัตุรัส PLACE DE LA REPUBLIQUE ที่ล้อมรอบไปด้วย อาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ที่มีร้านค้าร้านจําหน่ายของที่ระลึก ร้านอาหาร คาเฟ่ต่าง ๆ มากมาย ค่ำ
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย
นําท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว (ฝรั่งเศส)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (ม้ือ12)
ท่านเดินทางสู่ เมืองไฮเดลเบิร์ก (HEIDELBERG) (ระยะทาง 133 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เมืองเก่าแก่อายุนับพันปีของเยอรมนี เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าโรแมนติกที่สุดในเยอรมนี อีกทั้งยังเป็ นเมืองมรดกโลก เมืองไฮเดลเบิร์กมีความน่าสนใจมากทั้งประวัติศาสตร์ของเมือง ในอดีตเมืองแห่งนี้ เคยเป็นศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญของเยอรมัน เป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเยอรมัน ด้วยความสวยงามของเมือง นี้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวนับล้านคนในแต่ละปีต้องมาเยือนเมืองแห่งนี้
นําท่านชมบริเวณภายนอก ปราสาทไฮเดลเบิร์ก (HEIDELBERG CASTLE) ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ประมาณ 90 เมตร จุดเริ่มต้นของที่นี่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1196 ที่สร้างปราสาทหลังไม่ใหญ่สไตล์ โกธิค และมีการสร้างต่อเติมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมีขนาดเท่าที่เห็นในปัจจุบัน ตัวปราสาทก่อสร้าง ด้วยอิฐแดงเป็นปราสาทที่มีความงดงามอย่างยิ่ง อิสระให้ท่านถ่ายภาพความงดงาม พร้อมชม วิวทิวทัศน์ของแม่น้ําและเมืองไฮเดลเบิร์ก นําท่านข้าม สะพานเก่า ALTE BRUCKE สะพาน เก่าแก่ประจําเมืองไฮเดลเบิร์กสร้างข้ามแม่น้ําเนคการ์ (NECKAR RIVER) สู่ย่านเมืองเก่า ลักษณะเป็นสะพานโค้ง สร้างจากหินทรายสีแดงประกอบเป็นอิฐบล็อกสวยงามตั้งแต่ในอดีต และถูกอนุรักษ์และปรับปรุงให้อยู่คู่เมืองนี้มาอย่างยาวนาน ก่อนถึงสะพาน จะมีรูปปั้นลิงที่เรียก อีกชื่อหนึ่งว่า ลิงบรอนซ์ (MONKEY STATUE) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอัปลักษณ์ ไร้ยางอาย ความโลภ และความอวดดีทะนงตน มีความเชื่อกันว่าถ้าได้สัมผัสกระจกจะทําให้ร่ำรวย และได้ กลับมาไฮเดลเบิร์กอีก และหากสัมผัสหนูที่อยู่ข้างๆ เชื่อกันว่าจะทําให้มีลูกมาก เดินชม บรรยากาศ เก็บภาพความสวยงามของสิ่งปลูกสร้าง และวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ณ จัตุรัสมาร์คพลาตซ์ (MARKTPLATZ SQUARE) จัตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของ โบสถ์พระวิญญาณบริสุทธิ์แห่งไฮเดลเบิร์ก (CHURCH OF THE HOLY GHOST) หนึ่งในไม่กี่อาคาร ที่รอดพ้นจากสงครามในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา HOTEL ZUM RITTER ST.GEORGE อาคาร เก่าแก่ที่มีความงดงามถูกสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1592
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มือ13)
จากนั้นเดินทางสู่ Wertheim Village Outlet เป็นเอาท์เลตที่อยู่ไปทางตะวันตก ของเมืองวูซเบิร์ก ภายในเอาท์เลตแห่งนี้ เต็มไปด้วยสินค้ามากมายที่รอ นักท่องเที่ยวให้มาเดินชมและอิสระช้อป ปิ้ง เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมในราคา พิเศษ เช่น Lacoste, Samsonite, McGregor, Ulla Popken, Gaastra, Hallhuber, Guess, Polo Ralplauren,Geox, Bally, Armani, Burberry, Camel,Timberland, Vans, Levi's, Diesel, Nike, Adidas ฯลฯ อิสระรับประทานอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย ณ Wertheim Village Outlet ได้เวลาอันสมควรนําท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (FRANKFURT) เมืองที่ใหญ่เป็น อันดับ 5 ของประเทศเยอรมนีตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ําไมน์ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่ สําคัญของเยอรมนี เป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต และธนาคารกลางยุโรป
นําท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว (เยอรมัน)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ 14)
นําท่านเดินทางสู่ จัตุรัสโรเมอร์ (ROMERBERG SQUARE) จัตุรัสใจกลางเมืองแฟรงก์เฟิร์ตที่มี ความสวยงามและคงความงดงามของสถาปัตยกรรมยุคศตวรรษที่ 14-15 นําท่านเดินชม ศาลาว่าการเมือง (FRANKFURT CITY HALL) มหาวิหารแฟรงก์เฟิร์ต (FRANKFURT CATHEDRAL) หรืออีกชื่อนึงคือ มหาวิหารเซนต์บาร์โธโลมิว (SAINT BARTHOLOMEW) เป็น วิหารในคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแฟรงเฟิร์ต ในอดีต มหาวิหารอันเก่าแก่แห่งนี้เคยใช้เป็นที่ประกอบพิธี “ราชาภิเษกของจักรพรรดิโรมัน” น้ําพุแห่งความยุติธรรม ซึ่งมีประติมากรรมรูปปั้นเทพธิดาที่มือข้างซ้ายถือตราชั่งและมือข้างขวาถือดาบอยู่กลาง น้ําพุโรงอุปรากรเก่า (OLD OPERA HOUSE) โรงละครขนาดใหญ่ที่เก่าแก่ มีประวัติความเป็นมายาวนานในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองอาคารแห่งนี้ได้รับความเสียหาย ต่อมาได้มีการบูรณะซ่อมแซมภายนอกใหม่
อิสระชอปปิ้ง ณ ห้างMyZeil เป็นห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี Massimiliano Fuksas เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา PalaisQuartier โดยมีทางเข้าหลักอยู่ที่ Zeil ซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งหลักของแฟรงค์เฟิร์ต
เที่ยง อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควรนําท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟริต หัวหน้าทัวร์คอยอํานวย ความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง พร้อมอํานวยความสะดวก ด้านการขอคืนภาษี
16.20 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติราชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถานเที่ยวบินที่ T5 464 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)
01.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาชกาบัต เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน
03.50 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิเที่ยวบินที่ T5 647 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)
11.55 น. เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจไม่รู้ลืม
1. ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด (Economy Class)
2. ค่าน้ำหนักสัมภาระ ไม่จำกัดจำนวนชิ้น น้ำหนักรวมกันไม่เกิน 25 กิโลกรัมและถือขึ้นเครื่อง 7 กิโลกรัม เป็นไปตามที่สายการบินกำหนด
3. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
4. ค่ารถโค้ชปรับอากาศน าเที่ยวตามรายการพร้อมพนักงานขับรถที่ชำนาญเส้นทาง
5. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
6. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
7. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
8. ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
- ค่าประกัน อุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,500,000 บาท
- ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล (ADMIT) เนื่องจากอาการเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุจ่ายตามจริง (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุ วงเงินไม่เกิน 500,000
9. ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทดูแลตลอดการเดินทาง
1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินและ มากกว่า 1ชิ้น, ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม
5. ค่าทิปไกด์และคนขับรถวันละ10ยูโร รวมทงั้ทรปิ 100ยูโร/คน หมายเหตุโรงแรมส่วนใหญ่ในประเทศยุโรปจะไม่มีพนักงานยกกระเป๋าคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านซึ่งท่าน จะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินของท่านด้วยตัวท่านเอง
6. ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น ประเภทท่องเที่ยว ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ และลูกค้าจ่ายค่าวีซ่าเอง โดยตรงกับตัวแทนของแต่ละสถานฑูต
- การพิจารณาออกวีซ่าให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่านเป็นดุลยพินิจของสถานทูตเท่านั้น บริษัทฯ เป็นเพียงแค่ตัวแทน อํานวยความสะดวกในขั้นตอนการยื่นวีซ่า การพิจารณาอนุมัติวีซ่าจะอยู่ในดุลพินิจของทางสถานทูต ทางสถานทูตจะรับพิจารณาเฉพาะท่านที่มีเอกสารพร้อมสมบูรณ์ข้อมูลชัดเจน และมีความประสงค์ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศตามที่ระบุเท่านั้น
- การบิดเบือนข้อเท็จจริงประการใดก็ตาม อาจจะถูกระงับมิให้เดินทางเข้าประเทศในกลุ่มเชงเก้นเป็นการถาวร และถึงแม้ว่าท่านจะถูกปฏิเสธวีซ่า ทางสถานทูตไม่คืนค่าธรรมเนียมที่ได้ชําระไปแล้วและหากต้องการขอยื่นคํา ร้องใหม่ก็ต้องชําระค่าธรรมเนียมใหม่ทุกครั้ง
- หากสถานทูตมีการสุ่มเรียกสัมภาษณ์บางท่าน ทางบริษัทฯขอความร่วมมือในการเชิญท่านไปสัมภาษณ์ตามนัด หมายและโปรดแต่งกายสุภาพ ทั้งนี้ทางบริษัท ฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปอํานวยความสะดวกและประสานงาน ตลอดเวลา และหากสถานทูตขอเอกสารเพิ่มเติม ทางบริษัทใคร่ขอรบกวนท่านจัดส่งเอกสารดังกล่าวเช่นกัน - กรณีที่ท่านยกเลิกการเดินทางภายหลังจากได้วีซ่าแล้ว ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งสถานทูตยกเลิก วีซ่าของท่าน เนื่องจากการขอวีซ่าในแต่ละประเทศจะถูกบันทึกไว้เป็นสถิติในนามของบริษัทฯ
- ทางสถานทูตจะรับพิจารณาเฉพาะท่านที่มีเอกสารพร้อมและมีความประสงค์ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศ ที่ระบุเท่านั้น การปฏิเสธวีซ่าอันเนื่องมาจากหลักฐานในการขอยื่นวีซ่าปลอมหรือผิดวัตถุประสงค์ในการยื่นขอวี ซ่าท่องเที่ยว ทางบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงิน โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงและคืนให้ท่านหลังจากทัวร์ ออกเดินทางภายใน 30วัน
- เงินค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่า ทางสถานทูตเป็นผู้เรียกเก็บ ถึงแม้ว่าท่านจะถูกปฏิเสธวีซ่าทางสถานทูตก็ไม่ได้ คืนค่าธรรมเนียมที่ได้ชําระไปแล้ว และหากท่านต้องการยื่นคําร้องใหม่ ก็ต้องชําระค่าธรรมเนียมใหม่ด้วยตนเองทุกครั้ง
- กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชําระค่าทัวร์หรือมัดจํามาแล้ว ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจําตั๋วเครื่องบิน หรือ ค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออก ตั๋วเครื่องบินแล้ว) ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจํานวน ค่ามัดจํา โรงแรม หรือค่าโรงแรม (กรณีทางบริษัทฯได้ชําระค่าโรงแรมเต็มจํานวน)
181/88 ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700