18.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบินเอมิเรตส์ โดยมี เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
21.25 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 373 *
00.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
03.45น. ออกเดินทางต่อสู่แฟรงค์เฟิร์ต โดยเที่ยวบินที่ EK 43
08.50 น.ถึงสนามบินแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี นําท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นําท่าน เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สําคัญของ เยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สําคัญของประเทศ ผ่านชม สถานีรถไฟแฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลําโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อ คราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 นําเที่ยวชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่ เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่ง อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่เมืองเวิร์ซบวร์ก (Wurzburg) อยู่ทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ ริมฝั่งแม่น้ําเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก นําท่านชมความงดงามของเมืองมรดกโลก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) ถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองเวิร์ซบวร์ก (Wurzburg Cathedral) ที่สร้าง ขึ้นเมื่อปี คศ. 788 ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จากนั้นนําท่านแวะถ่ายรูปกับ เรสซิ เดนส์ ออฟ เวิร์ซบวร์ก (Residence of Wurzburg) สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 เป็นส่วนนึงของ พระราชวังเก่า (Baroque Palace) สร้างแบบสถาปัตยกรรมบาโรก และได้มีการบูรณะหลายครั้ง เนื่องจากถูกทําลายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และด้านนอกมีสวนที่สวยงาม มีรูปปั้นและแปลง ดอกไม้สวยๆ ให้ได้ชื่นชม จากนั้นนําท่านเดินทางต่อสู่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองที่มี อาคารบ้านเรือนแบบโบราณที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี และเมื่อ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ฮิตเลอร์ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นกองบัญชาการทางการทหารเพื่อต่อสู่ใน สงครามโลกครั้งที่ 2 และตัวเมืองโดนกลุ่มสัมพันธ์มิตรถล่มเสียหายเกือบทั่วทั้งเมือง แต่ชาวเมืองก็ ได้ร่วมมือกันบูรณะให้กลับมาอยู่ในสภาพใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ไส้กรอกเยอรมัน)
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก PARK INN RADISSION NUREMBERG หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นําท่านเดินทางสู่ อิงกอลสตัดท์ เอ้าท์เลท วิลเลจ (Ingolstadt Outlet Village) เอาท์เลตขนาด ใหญ่ที่มีสินค้าหลากหลายแบรนด์ อาทิ AIGNER, BALLY, Birkenstock, Calvin Klein, COACH,ESCADA, FOSSIL, GEOX, GUESS,Hugo Boss, L Occitane, LACOSTE, Levi's, Lindtt, MICHAEL KORS, Nike, PUMA, Samsonite, SUPERDRY, Swarovski, The North Face, Timberland, TOM TAILOR, TOMMY HILFIGER,TUMI,VALENTINO, Versace อิสระให้ ท่านได้เดินเล่นซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวง ของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และ เป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐ อิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมี เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นําชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่า เป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้าง ถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมี ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรํา เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น.
อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และของฝากตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก DORMERO KIRCHHEIM หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นําท่านสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของ ประเทศเยอรมนีและออสเตรีย
จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นําชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์ แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็น ปราสาทของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับ การตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรด ปรานยิ่ง *หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงิน หน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)
นําท่านเดินทางสู่เมืองลินเดา (Lindau) เมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยทะเลสาปโบเดนซี (Bodensee) เมืองแห่งนี้มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 882 และมีพื้นที่ติดชายแดนถึงสองประเทศ คือ ออสเตรีย และ สวิตเซอร์แลนด์ นําท่าน ชมเมืองลินเดา เดินเล่นตามถนนแมกซิมิเลียน ชมบ้านเรือนที่งดงาม มากมาย ถ่ายภาพกับศาลาว่าการเมืองเก่า Alte Rathaus (Old Town Hall) ที่สร้างเสร็จในปีค.ศ. 1436 ที่เป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมในแถบหุบเขาไรน์ของเทือกเขาแอลป์ (Alpine Rhine Valley) ที่ผสมผสานกันระหว่างศิลปะสไตล์กอธิค และเรอเนสซองส์ที่งดงาม จากนั้นนําท่าน เดินทางสู่เมืองเบรเกนซ์ (Bregenz) ประเทศออสเตรีย เมืองที่สวนงามอีกเมืองนึง ตั้งอยู่ปลายสุด ด้านตะวันออกของทะเลสาบคอนสตันซ์ (Lake Constance ) ทะเลสาบน้ําบริสุทธิ์ใหญ่เป็นอันดับ 3ของยุโรปกลาง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL MESSMER หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนั่งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา ความสูงจากระดับน้ําทะเล 1,797 เมตร ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) นี้มีที่มาจากคําว่า Mons Regina แปลได้ว่า ราชินิแห่งภูเขา (Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา ชมวิวแบบพาโนรามาโอบล้อมด้วยธรรมชาติของทะเลสาบ Luzern และ Zug
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
นําท่านเดินทางสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาค กลางตอนบนของประเทศ
โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บ ภาษีที่ค่อนข้างต่ําจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสําคัญระดับโลกมากมายมา เยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นําท่านชม เมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สําคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูง ของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ําเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ําตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมือง นําท่านเข้าชมร้านทําทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทําการตั้งแต่ สมัยศตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักรวรรดินโปเลียน มี ซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนําระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อ
จากนั้นเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รําลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของ ทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ. 1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ํารอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือน สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน แบบสมัยใหม่ มี
ถนนเลียบไปตามเนินเขาตลอดระยะทาง
ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL SEMPACHERSEE หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นําท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกใน ปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของ โลกในปี ค.ศ.2010 นําท่านชมบ่อหมีสีน้ําตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์นจาก นั้นชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอก เวลาแต่ละครั้ง นําท่านเดินชมมาร์กาสเซ(Marktgasse) ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่าน ที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
นําท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติ แบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ
ได้เวลาอันสมควรนําเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทําการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
22.15 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบินที่ EK086
06.25 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบรอเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพ ด้วยเที่ยวบินEK372
19.15 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
181/88 ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700